สารบัญ
อาการนอนไม่หลับ หรือ นอนหลับยาก เป็นอาการหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาจมีปัญหามาจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่เอื้อต่อการนอนหลับ เช่น มีตารางงานที่ไม่เป็นเวลา มีปัญหาทางด้านจิตใจ ความเครียดสะสม ความวิตกกังวลในระหว่างวันเกิดหรืออาจจะเกิดจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หอบหืด ภูมิแพ้ พอนอนไม่หลับติดต่อกันนานวันเข้า รู้สึกว่าร่างกายทรุดโทรมลง และป่วยง่าย ซึ่งบทความนี้จะมาแชร์ 7 เคล็ดลับที่ช่วยให้คุณนอนหลับสบายมากขึ้น และส่งผลให้สุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ
เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยนอนเพียง 4-5 ชั่วโมง ตื่นมาแล้วแต่ยังรู้สึกสดชื่น แต่ความสามารถในเรื่องอื่น ๆ อาจลดลง เป็นเพราะการนอนที่ไม่ได้คุณภาพ และไม่ครบจำนวนชั่วโมงนั่นเองค่ะ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการนอนหลับให้มีคุณภาพควรอยู่ที่ 7-8 ชั่วโมง มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไรนัก
วิธีที่ 1 ฝึกลมหายใจแบบ Wim Hof
ผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับคงเคยได้ยินการฝึกหายใจแบบ Wim Hof มาบ้างแล้วว่าเป็นวิธีที่จะทำให้นอนหลับได้ง่ายและดีขึ้น วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการฝึกหายใจเข้าให้ลึกและหายใจออกให้หมด 30 ครั้ง ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติส่งผลให้เซลล์ร่างกายทำงานดีขึ้น ช่วยให้หลับง่ายมากขึ้น เป็นข้อดีที่หลายคนมองเห็นด้วยการฝึกฝนตามหลักการที่ Wim Hof ได้อธิบายไว้ 4 ขั้นตอน ดูเพิ่มเติมได้ที่ Guided Wim Hof Method Breathing หรือ wimhofmethod.com
วิธีที่ 2 ออกกำลังกายเป็นประจำก็ทำให้นอนหลับง่าย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีส่วนช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น เนื่องจากร่างกายของเราจะหลั่งสารเคมีที่ช่วยคลายความตึงเครียดระหว่างการออกกำลังกาย แนะนำให้ออกกำลังกายเบาๆ เช่น กายบริหาร หรือโยคะ ก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อยืดกล้ามเนื้อ ช่วยให้จิตใจสงบขึ้น และปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลาย แต่ต้องย้ำนะคะว่าไม่ควรออกกำลังกายหนักก่อนนอน
วิธีที่ 3 งดดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนสูงในช่วงสายของวัน
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก่อนนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคาเฟอีนมีส่วนช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัว รบกวนระบบประสาทส่วนกลางและทำให้นอนไม่หลับได้ แต่ถ้าหากต้องการดื่มกาแฟ สามารถเลือกแบบ “ดีคาฟ (Decaf)” แทนก็ได้ ซึ่งเป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนเพียง 1-3%
วิธีที่ 4 เลี่ยงการใช้จอก่อนนอน
หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไอที และอุปกรณ์สื่อสารก่อนเข้านอน เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่งผลต่อคลื่นสมองโดยตรง ทำให้นอนหลับได้ไม่สนิทเท่าที่ควร อีกและแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารที่มีชื่อว่า เมลาโทนิน (Melatonin) น้อย ซึงจะทำให้คุณหลับยาก คลื่นสมองไม่ปลอดโปร่ง ตื่นนอนไม่สดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น
วิธีที่ 5 เสริมตัวช่วยที่ช่วยให้นอนหลับง่าย คลายกังวล
ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นงานที่เยอะ ภาระหน้าที่ต่างๆ ที่ต้องจัดการในแต่ละวัน อาจทำให้เกิความเครียดสะสมจนทำให้หลายคนมีปัญหาการนอนหลับที่ไม่ได้คุณภาพ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หลายคนรู้สึกป่วยง่าย ถ้าเป็นแบบนี้ต้องมีตัวช่วยสักหน่อย อย่าง Cele Foos เป็นเครื่องดื่มชนิดผงตัวเก่งจาก Hi PowerShot ที่ขายไปมากมายกว่าล้านกล่องใน 1 ปีและรีวิวมากมายที่คอนเฟิร์มว่าทานแล้วดีจึงบอกต่อ
นอกจาก Cele foos จะมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเป็นปกติ แต่การนอนหลับก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นเซเลฟูสจึงมีส่วนประกอบของเบอร์รี่รวมซึ่งมีส่วนช่วยให้หลับสบายทานง่าย ได้ประโยชน์ทุกวัน เพียงแค่ ฉีกซอง ชงได้กับน้ำอุณหภูมิห้อง ดื่มวันละ 1 ซองก่อนนอนหรือระหว่างวันทุกวัน ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของแต่ละคนด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากจะดื่มตัวช่วยดี ๆ แล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ
วิธีที่ 6 จัดห้องให้น่านอนก็หลับได้ไม่ยาก
การจัดห้องนอนให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การนอนหลับ เป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้นอนหลับง่ายที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากมีสภาพแวดล้อมที่ช่วยทำให้นอนหลับง่ายและนอนหลับสนิทจะยิ่งส่งผลให้การนอนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งเรามีเคล็ดลับการจัดห้องนอนที่ช่วยให้นอนหลับง่ายมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. เครื่องนอน
ควรหันมาใส่ใจในเรื่องของเครื่องนอน ไม่ว่าจะเป็นประเภทของที่นอนและกลิ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หากคุณมีที่นอนที่เหมาะสมกับสรีระจะช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น แถมยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ด้วย ซึ่งถ้าหากที่นอนที่คุณนอนอยู่ทุกวันนี้นั้นแข็งเกินไป หรือนุ่มเกินไป อาจส่งผลให้คุณนอนหลับได้ไม่สนิท ตื่นกลางดึกและในที่สุดจะทำให้คุณนอนไม่หลับนั่นเอง
2. แสงไฟ
แสงไฟที่เหมาะสมแก่การนอนหลับควรเป็นโทนสีส้ม สีวอร์มไวท์ หรือสีเหลืองอ่อน ๆ จะช่วยให้รู้สึกสบาย สงบ ทำให้นอนหลับสนิทตลอดคืน ดังนั้นใครที่มองหาวิธีทำให้นอนหลับง่ายอยู่ แนะนำให้สำรวจการจัดแสงไฟภายในห้องนอนด้วยนะคะ ถ้าเห็นว่าแสงแยงตามากเกินไปควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ถือโอกาสจัดห้องนอนใหม่ให้ตอบโจทย์การนอนมากขึ้นนั่นเอง
3. อุณหภูมิ
ถ้าห้องนอนมีอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ตื่นกลางดึกได้ โดยอุณหภูมิที่ดีในการนอนหลับไม่ควรร้อนหรือเย็นจนเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 17-25 องศาเซลเซียส นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้นอนหลับง่าย ที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม และที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเตรียมร่างกายให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ดังนั้นไม่ควรอาบน้ำเย็นจัดหรือร้อนจัดก่อนเข้านอนนะคะ
วิธีที่ 7 ไม่กินอาหารดึกเกินไปก็นอนหลับสบายได้ง่ายๆ
เลี่ยงการทานอาหารมื้อดึกก่อนนอน 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพราะการทานอาหารหรือขนมในช่วงดึกจนเกินไป จะทำให้ร่างกายกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ผิดปกติ ที่สำคัญคือร่างกายจะต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แน่นอนว่าการทานอาหารก่อนนอนไม่ใช่วิธีทำให้นอนหลับง่ายขึ้น ทางที่ดีควรจัดเวลาการทานอาหารให้เหมาะสมและนอนหลับให้เป็นเวลาจะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดีมากขึ้น
เห็นไหมคะว่าการนอนหลับอย่างมีคุณภาพส่งผลต่อร่างกายมาก ๆ เลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาเคล็ดลับทั้ง 7 ข้อที่เราได้รวบรวมมานั้น เป็นวิธีทำให้นอนหลับง่ายและมีประสิทธิภาพ เพียงแค่เพื่อน ๆ หันมาใส่ใจการนอนก็ทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ง่าย ๆ แล้วใช่ไหมคะ หากใครที่มีปัญหาการนอนลองนำไปปรับใช้กันดูได้เลย รับรองเลยว่าสุขภาพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างแน่นอน แต่หากใครที่มีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้ชีวิตประจำวันแย่ลงกว่าเดิม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพื่อรับคำแนะนำรวมถึงแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม ทั้งนี้อยากให้เพื่อน ๆ หมั่นสังเกตสุขภาพภาวะการนอนของตัวเองเป็นประจำเพื่อให้มีสุขภาพดีในแบบฉบับที่คุณต้องการ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://bit.ly/3xLINin
https://bit.ly/3reUnjH
https://bit.ly/3retU5U